ฟอกสีฟัน

การฟอกสีฟัน

การฟอกสีฟัน คือกระบวนการเพิ่มความขาวของฟันด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันในการเปลี่ยนสีฟันธรรมชาติที่ไม่น่าพึงพอใจให้กลับมายิ้มโชว์ฟันขาวได้อย่างสดใสและมั่นใจยิ่งกว่าเดิม

ประโยชน์และข้อจำกัดของการฟอกสีฟัน

การฟอกสีฟันสามารถทำกับทันตแพทย์โดยตรงที่คลินิกซึ่งจะใช้สารฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูงและใช้เครื่องมือต่าง ๆ ร่วมด้วย หรืออาจใช้อุปกรณ์จากคลินิกแต่นำกลับมาฟอกเองที่บ้านตามคำแนะนำของทันตแพทย์ก็ได้ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันก็ยังมีขายตามร้านขายยาทั่วไป แต่วิธีหลังนี้อาจเสี่ยงเกิดปัญหาต่อสุขภาพปากตามมาได้มากกว่าเพราะไม่มีแพทย์คอยให้คำแนะนำในการใช้ อย่างไรก็ตาม การฟอกสีฟันโดยตรงที่คลินิกมีข้อเสียคือมีราคาสูงกว่าการรับอุปกรณ์กลับมาทำเองที่บ้านและการซื้อผลิตภัณฑ์ตามร้านขายยามาฟอกเอง

การฟอกฟันขาวจะได้ผลดีที่สุดกับผู้ที่มีปัญหาฟันเหลือง แต่จะมีประสิทธิภาพน้อยกับฟันสีน้ำตาล หรืออาจไม่ได้ผลเลยด้วยซ้ำหากฟันมีสีออกเทาหรือม่วง ส่วนระดับความขาวของฟันที่ได้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพฟันของคนไข้ ลักษณะรอยคราบบนฟัน รวมถึงชนิดของสารฟอกขาวที่นำมาใช้ด้วย

ผลลัพธ์จากการฟอกสีฟันนั้นจะคงอยู่เพียงชั่วคราว หรือยาวนานแตกต่างกันไปในแต่ละคน และยังขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาหลังฟอกฟัน ผู้ที่รับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่จะทำให้เกิดคราบบนฟัน เช่น ไวน์ ชา หรือกาแฟ อาจส่งผลให้สีฟันเริ่มจางลงไปได้ภายใน 1 เดือน ส่วนผู้ที่หลีกเลี่ยงอาหารดังกล่าว ความขาวของฟันก็อาจอยู่ได้เป็นปีหรือนานกว่านั้น

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์จากการฟอกสีฟันไว้สูงอาจต้องผิดหวัง เพราะการฟอกสีฟันสามารถช่วยเพิ่มความขาวได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น โดยสีของฟันที่ได้ควรจะเป็นสีขาวที่สว่างกว่าตาขาวของคนเราเล็กน้อย และหากฟอกฟันแล้วยังมีพฤติกรรมสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่องก็จะยิ่งทำให้ผลลัพธ์การฟอกมีขีดกำจัดลงมาอีก

การดูแลรักษาฟันหลังฟอกสี

การฟอกสีฟันไม่ว่าจะทำโดยทันตแพทย์โดยตรงหรือฟอกเองที่บ้าน หากต้องการให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้อย่างยาวนานควรดูแลรักษาฟันตามข้อปฏิบัติดังนี้

  • ทำความสะอาดฟันด้วยการแปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน และบ้วนปากเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยอาจใช้ยาสีฟันชนิดช่วยทำให้ฟันขาวร่วมด้วย
  • หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่จะทำให้เกิดคราบบนฟัน เช่น ชา กาแฟ ไวน์แดง เครื่องดื่มเกลือแร่ น้ำอัดลม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ และอาหารที่มีสีเข้มอย่างแกงกะหรี่ เย็นตาโฟ รวมถึงซอสต่าง ๆ และแนะนำให้ใช้หลอดในการดื่มเครื่องดื่มที่มีสีดำหรือสีจัดแทน
  • งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • หมั่นตรวจสุขภาพและเข้ารับการทำความสะอาดช่องปากกับทันตแพทย์เป็นประจำปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้ฟันมีสุขภาพและคงความขาวได้อย่างยาวนาน
ฟอกสีฟัน

คำถามที่พบบ่อย

  • มีอายุน้อยกว่า 16 ปี เนื่องจากเป็นช่วงที่โพรงประสาทหรือเส้นประสาทในฟันยังมีการเจริญเติบโตอยู่ การฟอกสีฟันระหว่างนี้จะทำให้เกิดความระคายเคืองหรือเสียวที่โพรงฟันตามมาได้
  • หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • ผู้ป่วยด้วยโรคเหงือกหรือใส่เคลือบฟัน รวมถึงผู้ที่มีอาการแพ้สารเพอร์ออกไซด์ซึ่งเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน ไม่ควรรับการฟอกสีฟัน
  • ผู้ที่มีปัญหาเสียวฟัน เหงือกร่น หรือมีฟันที่ถูกอุด ควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน
  • โพรงฟันที่เป็นหลุมหรือมีรากฟันโผล่ออกมานั้นควรได้รับการรักษาให้เรียบร้อยเสียก่อน เนื่องจากสารฟอกฟันขาวจะแทรกซึมผ่านไปยังส่วนของฟันที่ผุและพื้นที่ด้านในของฟันจนก่อให้เกิดอาการเสียวฟันได้
  • วัสดุอุดฟัน ครอบฟัน สะพานฟัน หรือฟันปลอมในปากจะไม่ขาวขึ้นจากการฟอกสีฟัน ส่งผลให้ฟันปรากฏเห็นเป็นสีไม่สม่ำเสมอ และยังทำให้ฟันซี่ที่ปกติมีสีขาวโดดเด่นกว่าฟันที่มีวัสดุดังกล่าว ทางที่ดีจึงควรฟอกสีฟันให้เรียบร้อยก่อนการรักษาฟันด้วยวัสดุเหล่านี้ คนไข้ที่มีฟันที่เป็นปัญหาหลายซี่ ผลการฟอกฟันอาจทำให้สีของฟันไม่สม่ำเสมอ ทางที่ดีควรปรึกษาทันตแพทย์ถึงการรักษาด้วยวิธีอื่นแทน เช่น ใส่ครอบฟันหรือใช้วัสดุอุดฟันสีเหมือนฟัน
  • ผู้ที่มีฟันเป็นคราบสีเข้ม ฟันสีออกน้ำตาล จะมีการตอบสนองต่อการฟอกสีฟันได้น้อย และหากเป็นคราบสีเทาหรือม่วงก็อาจไม่ตอบสนองเลย โดยเฉพาะคราบสีเทาอมฟ้าที่เกิดจากการใช้ยาเตตราไซคลีน (Tetracycline) ซึ่งจะทำให้ขาวขึ้นได้ยาก และอาจต้องใช้เวลานานถึง 6 เดือนหากเลือกใช้การฟอกสีฟันแบบทำเองที่บ้าน หรือถ้าทำที่คลีนิกก็ต้องมีการนัดหมายหลายครั้ง ทันตแพทย์จึงอาจแนะนำการรักษาทางเลือกที่เหมาะสมกว่าแทนการฟอกสีฟัน

การฟอกสีฟันที่ปลอดภัยและได้ผลควรทำกับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เนื่องจากการฟอกสีฟันที่ไม่ได้ทำโดยแพทย์หรือการหาซื้อผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันมาใช้เองที่บ้านจะมีโอกาสเสี่ยงต่อสุขภาพของช่องปาก เช่น การระคายเคืองและอักเสบของเหงือก มีอาการเสียวฟัน หรือเกิดความเสียหายต่อประสาทฟันได้

ผลข้างเคียงของการฟอกสีฟันที่พบบ่อย คืออาการเสียวฟันที่จะเกิดขึ้นชั่วคราวและมักเกิดในระยะแรกของการฟอกสีฟัน รวมถึงความรู้สึกระคายเคืองชนิดไม่รุนแรงของเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปากโดยเฉพาะบริเวณเหงือก ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการสวมถาดฟอกสีฟันที่ไม่พอดีมากกว่าจะเป็นอาการระคายเคืองจากสารฟอกสี

ผลข้างเคียงจากการฟอกสีฟันทั้ง 2 ชนิดนี้ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและหายไปภายใน 1-3 วันหลังจากหยุดใช้หรือเสร็จสิ้นการรักษาแล้ว ส่วนผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เช่นกัน ได้แก่อาการแสบร้อนที่เหงือก หรือชั้นเคลือบฟันได้รับผลกระทบเนื่องจากการฟอกสีฟันเองที่บ้าน

อย่างไรก็ตาม อาการเสียวฟันซึ่งเป็นผลข้างเคียงหลักจากการฟอกสีฟัน มีวิธีช่วยบรรเทาให้ลดลงได้ดังนี้

      • ลดระยะเวลาในการสวมใส่ถาดฟอกสีฟันให้น้อยลง
      • หยุดฟอกสีฟันสัก 2-3 วันเพื่อให้ฟันได้ปรับตัวกับการฟอกสีฟัน
      • ใช้ยาสีฟันช่วยลดอาการเสียวฟันที่มีส่วนผสมของโพแทสเซียมไนเตรต ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดของปลายเส้นประสาท
      • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ช่วยลดอาการเสียวฟัน โดยอาจสอบถามจากทันตแพทย์ที่ให้การรักษาหรือเภสัชกร หากใช้ถาดฟอกสีฟันให้ทาฟลูออไรด์ที่ถาดฟันแล้วใส่ไว้อย่างน้อย 4 นาทีก่อนเริ่มฟอกสีฟันตามมาปกติ

นัดหมาย